วิธีเลี้ยงปลาคราฟ กับ 5 เรื่องน่ารู้ก่อนเลี้ยงปลาคราฟในบ้าน

Posted on

วิธีเลี้ยงปลาคราฟ ปลาคาร์ฟ หรือปลาคาร์ป ปลาสวยงามยอดนิยมที่ไม่ได้แค่ช่วยเพิ่มความสวยงามมีชีวิตชีวาให้แก่บ้านแต่ตามความเชื่อยังเป็นเครื่องหมายของสิ่งมงคลด้านโชคลาภอีกด้วย คนนิยมเลี้ยงปลาคราฟไว้เป็นสัตว์เลี้ยงอีกทั้งบริเวณที่เลี้ยงปลาคราฟก็ยังเป็นมุมโปรดในการพักผ่อนหย่อนใจของใครหลาย ๆ คน ดังนั้นการวางแผนก่อนที่จะเริ่มต้นเลี้ยงปลาคราฟจึงเป็นสิ่งสำคัญ มาดูกันว่าสำหรับมือใหม่ที่จะเริ่มต้นเลี้ยงปลาคราฟควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

การเตรียมตัวก่อนเลี้ยงปลาคราฟในบ้าน

1. การเลือกซื้อปลาคราฟ

การเลือกซื้อปลาคราฟไม่ควรซื้อปลาคราฟที่โตแล้วมาเลี้ยง แต่ควรเลือกซื้อปลาคราฟที่มีอายุอยู่ในช่วง 1-2 ปี มาเลี้ยง และไม่ควรนำปลาชนิดอื่นมาเลี้ยงรวมกับปลาคราฟเพราะอาจเป็นพาหะของโรคต่าง ๆ ให้กับปลาคราฟที่เรานำมาเลี้ยงได้

ลักษณะปลาคราฟที่ดีเบื้องต้น

รายละเอียดลักษณะที่ดี
สีสีมีความหนา ความเงาหรือความโปร่งแสง มีความเรียบร้อยของขอบสี
รูปร่างส่วนหัวไม่บุ๋มหรือนูนออกมา ส่วนหลังไม่โก่งหรือโค้ง ครีบหรือหางไม่ควรขาด-แหว่ง หัวควรจะอยู่ในสัดส่วนที่พอเหมาะกับลำตัว และไม่มีลักษณะกลมจนเกินไป
ท่าทางการว่ายน้ำว่ายน้ำได้อย่างราบรื่น ไม่มีอาการกระตุก เหงือกเคลื่อนไหวสม่ำสเมอ ไม่แยกตัวสันโดษกับปลาตัวอื่น
อายุควรมองหาลูกปลา อายุ 1-2 ปีมาเลี้ยง

เลี้ยงปลาทองเสริมฮวงจุ้ย กับ 5 เรื่องควรรู้ก่อนเลี้ยง

2. พันธุ์ปลาคราฟยอดนิยม

ปลาคราฟมีหลากหลายสายพันธุ์ที่คนนิยมนำมาเลี้ยง เช่น

– ปลาคราฟพันธุ์โคฮากุ (Kohoku) เป็นปลาคราฟที่มีสีขาวและสีแดง และคนนิยมเลี้ยงมากที่สุด

– ปลาคราฟไทโชซันโชกุ (Taisho Sanshoku / Taisho Sanke) เป็นปลาคราพที่มีสีขาว สีแดง และสีดำสนิท (ดำถ่าน) โดยสีดำจะไม่อยู่บริเวณหัวและสีแดงจะไม่อยู่บนครีบหาง

3. การเตรียมบ่อปลาคราฟ

– วัสดุที่เหมาะสำหรับสร้างบ่อปลาคราฟ วัสดุที่เหมาะสำหรับนำมาสร้างบ่อปลาคราฟคือปูนซีเมนต์ เนื่องจากปูนซีเมนต์สามารถแปลงสภาพให้บ่อปลาคราฟมีความคล้ายคลึงกับบ่อน้ำธรรมชาติได้เร็ว และตะไคร่น้ำที่เป็นทั้งอาหารของปลาคราฟและตัวช่วยดูดสิ่งสกปรกหรือแอมโมเนียในน้ำสามารถเจริญเติบโตได้ดีในบ่อปูนด้วย

– น้ำที่ใช้เลี้ยงปลาคราฟ น้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลาคราฟ ซึ่งปลาคราฟจะชอบอยู่ในน้ำที่มีสภาพเป็นกลาง ดังนั้นน้ำประปาจึงตอบโจทย์สำหรับการเลี้ยงปลาคราฟมากที่สุด โดยน้ำประปาที่ใช้จะต้องเปิดเก็บไว้ประมาณ 2-3 วันให้คลอรีนระเหยออกหมดแล้ว นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำฝนและน้ำคลองในการเลี้ยงปลาคราฟ เพราะเสี่ยงต่อการทำให้ปลาคราฟติดเชื้อ อีกทั้งน้ำฝนยังทำลายสีสันบนลำตัวของปลาคราฟอีกด้วย

– สถานที่ที่เหมาะในทำบ่อปลาคราฟ บ่อปลาคราฟควรมีร่มเงาและความร่มรื่น นอกจากนี้บ่อปลาคราฟไม่ควรอยู่กลางแจ้งเพราะจะทำให้สีสันของปลาคราฟจางและปลาคราฟเจริญเติบโตช้า

4. อาหารสำหรับปลาคราฟ

การให้อาหารปลาคราฟจะให้วันละ 2 เวลา คือ เช้าและเย็น ในปริมาณที่พอเหมาะ โดยอาหารที่เหมาะสมสำหรับปลาคราฟ อาจเป็นอาหารสำเร็จรูป เนื้อสัตว์ หรือพืช ก็ได้ดังนี้

  • อาหารสำเร็จรูปสำหรับปลาคราฟ อาหารสำเร็จรูปที่ผสมสาหร่ายสไปรูลิน่าเพื่อเร่งสีสันปลาคราฟให้สวยงาม
  • เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อปลาป่น กุ้งบด เนื้อหอย ปู หมึก แมลง ลูกน้ำ หนอนแดง
  • พืชผักต่าง ๆ เช่น ข้าวสาลี รำ ผักกาด ข้าวโพด สาหร่าย ตะใคร่น้ำ แหน ถั่วเหลือง ขนมปัง

5. ปลาคราฟกับฮวงจุ้ย

ตามความเชื่อการเลี้ยงปลาคราฟไว้ในบ้านจะช่วยเสริมฮวงจุ้ยทางด้านการเงินและการงาน นอกจากนี้ปลาคราฟยังเป็นสัญลักษณ์ของคนที่มีความพยายามจนประสบความสำเร็จตามความเชื่อของชาวจีนโบราณว่าปลาคราฟจะว่ายทวนน้ำไปยังต้นน้ำและกลายเป็นมังกร โดยการเสริมฮวงจุ้ยด้วยการเลี้ยงปลาคราฟสามารถทำได้ดังนี้

  • วางบ่อปลาคราฟให้หันหน้าเข้าหาตัวบ้าน และบ่อปลาคราฟควรอยู่ซ้ายมือเสมอ
  • จำนวนปลาคราฟในบ่อควรเป็นเลข 8 เช่น 8, 18, 28, 38, 58 เป็นต้น
ก่อนตัดสินใจเลี้ยงปลาคราฟควรศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน

5 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการทำบ่อปลาคราฟ

1. เตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงปลาคราฟโดยขนาดบ่อที่เหมาะสมกับการเลี้ยงปลาคราฟควรเริ่มต้นที่ขนาดกว้างxยาวxลึก อยู่ที่ 80x120x50 เซนติเมตร เป็นต้นไป นอกจากนี้บ่อปราคราฟควรมีสะดือที่ก้นบ่อเพื่อติดตั้งระบบถ่ายเทน้ำและเก็บสิ่งสกปรก โดยขนาดสะดือของบ่อปลาคราฟจะอยู่ที่ประมาณ 1×2 ฟุต ลึกประมาณ 4-6 นิ้ว

2. วางระบบกรองน้ำเริ่มจากการสร้างบ่อกรองน้ำโดยบ่อกรองน้ำควรมีขนาด 1 ใน 3 ของบ่อปลาคราฟ มีความลึกกว่าตัวบ่อปลาคราฟเพื่อให้น้ำไหลไปบ่อกรองได้ง่าย

3. วางระบบกรองน้ำในส่วนของท่อน้ำและเครื่องปั๊มน้ำ โดยมีท่อน้ำจากสะดือบ่อไปยังบ่อกรองน้ำ ปั๊มน้ำ ท่อน้ำทิ้งและท่อน้ำกลับไปยังบ่อปลาคราฟ ติดตั้งหัวพ่นอากาศ วาล์ว และน้ำพุหรือน้ำตกเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้ปลาคราฟ และแรงดันน้ำจะช่วยให้สิ่งปฏิกูลในบ่อปลาคราฟไหลไปรวมกันบริเวณสะดือบ่อปลาคราฟ

4. วางระบบท่อน้ำล้นตามระดับความสูงของน้ำในบ่อปลาคราฟที่ต้องการเพื่อควบคุมระดับน้ำในบ่อปลาคราฟ โดยน้ำที่ล้นออกมาจะไหลเวียนไปยังท่อระบายน้ำตามระบบกรองน้ำที่วางไว้

5. เมื่อสร้างบ่อปลาคราฟและติดตั้งระบบกรองน้ำเสร็จให้ใส่น้ำในบ่อปลาคราฟและแช่ไว้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้วปล่อยน้ำออก จากนั้นเปิดน้ำกักไว้ในบ่อปลาคราฟอีกประมาณ 3 วันแล้วค่อยเปิดระบบกรองน้ำ

การเลี้ยงปลาคราฟต้องไม่ละเลยเรื่องความสะอาดของบ่อ

5 เคล็ดลับในการดูแลและทำความสะอาดบ่อปลาคราฟ

1. ใส่ออกซิเจนในบ่อปลาคราฟให้พอเหมาะกับจำนวนปลาคราฟ และไม่เลี้ยงปลาคราฟในบ่อจำนวนมากเกินไป อัตราส่วนของจำนวนปลาคราฟควรเหมาะสมกับความกว้างของบ่อปลาคราฟ

2. ในการล้างบ่อปลาคราฟควรเน้นการล้างทำความสะอาดบ่อกรองแทนการล้างบ่อปลาคราฟโดยตรงเพราะอาจทำให้ปลาคราฟช็อกน้ำที่เปลี่ยนใหม่ได้ โดยวิธีการคือบล็อกน้ำระหว่างบ่อเลี้ยงปลาคราฟกับบ่อกรอง ดูดน้ำในบ่อกรองทิ้งแล้วน้ำน้ำในบ่อเลี้ยงมาทำความสะอาดบ่อกรองแทนการใช้น้ำประปาโดยตรงเพื่อป้องกันคลอรีน

3. ในขั้นตอนของการดูดน้ำออกจากบ่อและกำจัดสิ่งปฏิกูลอาจเหลือตะไคร่น้ำไว้เพราะเป็นแหล่งอาหารของปลาคราฟและสามารถช่วยดูดสิ่งสกปรกหรือแอมโมเนียในน้ำ

4. ใส่จุลินทรีย์ปรับสภาพน้ำทุกครั้งหลังเปลี่ยนน้ำในบ่อปลาคราฟและบ่อกรอง

5. ดูดล้างตะกอนออกจากบ่อกรองบ่อยๆ และให้อาหารพอเหมาะกับจำนวนปลาคราฟ ไม่ให้อาหารปลาคราฟมากเกินไปจนเหลือเพราะจะทำให้น้ำในบ่อปลาคราฟเสียได้

สำหรับคนที่กำลังวางแผนเลี้ยงปลาคราฟนอกจากการเตรียมตัวก่อนเลี้ยงปลาคราฟแล้ว อย่าลืมดูแลเอาใจใส่สิ่งแวดล้อมและบ่อปลาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ปลาคราฟมีสุขภาพที่ดีและอายุยืนอยู่คู่บ้านอย่างยาวนาน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:  ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ

– ปลาคราฟพันธุ์โชวา ซันโชกุ /ซันเก้ (Showa Sanshoku / Showa Sanke) ลำตัวมีสีขาว สีแดงและสีดำเชื่อมเป็นตัววาย

– ปลาคราฟพันธุ์อุจึริโมโนะ (Utsurimono) ลำตัวเป็นสีพื้นและมีสีดำพาดผ่าน

– ปลาคราฟพันธุ์เบคโกะ (Bekko) ลำตัวสีพื้นและมีจุดดำแต้ม

– ปลาคราฟพันธุ์อาซากิ ชูซุย (Asagi Shusui) ปลาคราฟที่มีเกล็ดสีออกฟ้า

– ปลาคราฟพันธุ์โกโระโมะ (Koromo) เป็นปลาคราฟที่มีเกล็ดสีน้ำเงินกระจายอยู่รวมกับสีพื้นอื่น

– ปลาคราฟพันธุ์โอกอน (Ogon) เป็นปลาคราฟไม่มีลวดลายและสะท้อนแสงเลื่อม

– ปลาคราฟพันธุ์ฮิการิ โมโย (Hikari Moyo) มีสีมากกว่า 1 สี และเป็นสีที่แวววาว

นอกจากนี้ยังมีปลาคราฟพันธุ์ฮิการิ อุจิริ (Hikari Utsuri) ปลาคราฟพันธุ์คินกินริน (Kinginrin) ปลาคราฟพันธุ์ตันโจ (Tancho) เป็นต้น