3 แบบบ้านโมเดิร์นทรอปิคอล บ้านสไตล์ทรอปิคอล (Tropical) เป็นสไตล์บ้านที่สร้างขึ้นมาให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ และแมกไม้นานาพรรณ เมื่อหลับตาแล้วจินตนาการ จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในป่าเขตร้อนชื้น แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความเป็นธรรมชาติเหล่านี้จะช่วยสร้างความผ่อนคลาย และทำให้รู้สึกถึงการได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เมื่ออยู่ภายในบ้าน
บ้านสไตล์นี้ถือเป็นแบบบ้าน ที่ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติ ได้เป็นอย่างดี มีลักษณะโดยรวมที่โปร่ง โล่ง สบาย เหมาะกับสภาพอากาศ ร้อนชื้นอย่างประเทศไทย และแถบประเทศเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่บ้านสไตล์นี้นิยมใช้โทนสีสว่าง หรือเอิร์ธโทนเป็นสีหลัก และใช้วัสดุตกแต่งบ้าน ที่ทำมาจากธรรมชาติ อย่างเช่น งานหวาย ไม้ไผ่ หรือหินศิลาแลง เป็นต้น
3 แบบบ้านโมเดิร์นทรอปิคอล
แบบที่ 1 บ้านโมเดิร์นทรอปิคอล ดื่มด่ำกับความสุข เย็นสบาย
บ้านโมเดิร์นทรอปิคอล ร้อนแล้ว ร้อนอยู่ ร้อนต่อ สำหรับบ้านเราที่อยู่เขตร้อนชื้นก็ต้องอยู่กับสิ่งนี้ไปตลอด แต่เชื่อว่าเจ้าของบ้านทุกคนจะไม่ยอมแพ้ ต้องหาวิธีรับมือกับอากาศที่ทำให้การอยู่อาศัยไม่สบาย และคงจะดีกว่าหากเราออกแบบบ้านป้องกันปัญหาเหล่านี้ตั้งแต่แรก หากคุณกำลังมองหาบ้านที่ผสมผสานกลิ่นอายของเขตร้อนเข้ากับสไตล์โมเดิร์น นี่อาจจะเป็นแรงบันดาลใจที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณก็เป็นได้
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเหมือนก้าวเข้าสู่สีไม้ สีของคอนกรีต โอบล้อมพื้นที่ด้วยบรรยากาศและความรู้สึกผ่อนคลายสบายตา สงบ ผนังคอนกรีตสูง 2 ชั้นตั้งตระหง่านเป็นจุดโฟกัสในพื้นที่ พื้นผิวที่ดิบและมีเท็กซ์เจอร์ช่วยเพิ่มความรู้สึกแบบ industrial
ในขณะที่โทนสีที่เป็นกลางๆ เป็นฉากหลังที่สร้างความหลากหลายสำหรับการออกแบบโดยรวม พื้นปูด้วยไม้ที่ให้ความรู้สึกกับผนังคอนกรีต และเป็นองค์ประกอบธรรมชาติที่เข้ามาเพิ่มความอบอุ่นและความน่าสนใจให้กับพื้นที่
เหนือบริเวณนี้การผสมผสานระหว่างผนังคอนกรีตสูง 2 เท่า โคมไฟแขวน และราวจับแบบมินิมอลพร้อมท็อปไม้ ทำให้เกิดความสมดุลที่สมบูรณ์ระหว่างองค์ประกอบแบบอุตสาหกรรมและแบบออร์แกนิก ความดิบกระด้างของคอนกรีตถูกทำให้อ่อนลงด้วยแสงอันอบอุ่นของแสงและธรรมชาติของไม้ การออกแบบโถงสูงยังช่วยให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงได้ง่ายและระบายออกสู่ภายนอกได้ดี
ในบ้านนี้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างและสมาชิกต้องการพื้นที่นั่งเล่นหลากหลาย ในปีกบ้านด้านข้างติดหน้าต่างขนาดใหญ่จึงทำห้องนั่งเล่นอีกโซน ที่สร้างบรรยากาศแบบโอเอซิสอันเงียบสงบ ด้วยพื้นที่นั่งเล่นสไตล์มินิมอล เฉดสีเบจอ่อนๆ
แต่ใส่ความน่าสนใจด้วยพรมผืนใหญ่โทนสีฟ้าที่ตัดกัน เหมือนเป็นสายน้ำที่สาดเข้ามาในใจกลาง หน้าต่างที่เรียงยาวทั้งสองด้านเปิดรับลมระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติระหว่างวันได้ ป้องกันไม่ให้สภาพอากาศภายในบ้านร้อนหรือชื้นจนเกินไป
รายละเอียดเล็กน้อยในการตกแต่งภายในมีทั้งเส้นสะอาดตา รูปทรงเรียบง่าย ให้ความงามตามธรรมชาติของวัสดุและสีสันเปล่งประกายออกมา นอกจากนี้ยังเน้นที่ประโยชน์ใช้สอยได้จริง โดยเฉพาะการทำสเปซในบ้านขนาดใหญ่ ใส่ความเชื่อมต่อทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ทำให้การเดินทางของแสง ลม ภายในเป็นไปตามกระบวนการธรรมชาติ
สร้างบรรกาศแบบในสวนที่มีชิงช้าดีไซน์เรียบง่ายและเก๋ไก๋ ล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจีเหมาะสำหรับการผ่อนคลายและหลีกหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ช่องเปิดสวย ๆ ที่เรียงต่อกันช่วย แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในพื้นที่เท่าที่ต้องการ ไม่มากไปไม่น้อยไป อะไรจะดีไปกว่าการใช้เวลายามเย็นในมุมเล็ก ๆ ที่แสนสบายนี้พร้อมจิบชาร้อน ๆ ดื่มด่ำกับความสุขแบบส่วนตัว
แบบที่ 2 บ้านพักตากอากาศโมเดิร์นทรอปิคอล
แบบบ้านโมเดิร์น อาจจะนำเสนอเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมง่าย ๆ วัสดุมีทั้งของแพงหรูหราหรือใช้วัสดุธรรมชาติ แล้วแต่ Mood&Tone ของบ้านที่ต้องการนำเสนอ อย่างสถาปัตยกรรมนี้ที่ชื่อ Casa Uruguai ออกแบบโดย Occa Urbana Arquitetura มีแนวคิดว่าอยากให้ที่นี่เป็นบ้านพักฤดูร้อน
จึงออกแบบให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศ และเลือกใช้วัสดุที่เข้ากันได้ดี มีจังหวะการจัดวางช่องปิดและช่องเปิดที่ตอบโจทย์การใช้งาน บ้านก็จะมีช่องทางรับแสง ลม และมีพื้นที่ว่างให้ใช้ชีวิตได้อย่างผ่อนคลาย เชิญชวนให้มาพักผ่อนตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไป
บ้านสองชั้นนี้ตั้งอยู่ใน Condomínio Sense ที่หาด Xangri-Lá ขนาดบ้าน 15×30 ม. หันหน้าไปทางทิศใต้มองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบ บริบทที่แวดล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวและน้ำ บวกกับความต้องการให้บ้านเข้ากันได้กับสิ่งแวดล้อม
สถาปนิกจึงเลือกใช้วัสดุที่เป็นองค์ประกอบตามธรรมชาติ คอนกรีตเปลือย หินธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดความงามแบบร่วมสมัย และสิ่งที่พิเศษคือการทำฟาซาดไม้ที่ดูเผินๆ เหมือนผนังทึบ แต่จริงๆ ผนังนี้เป็นบานไม้ที่สามารถเปิดปิดได้ตามสถานการณ์
ส่วนสำคัญของบ้านอยู่ลึกเข้าไปข้างใน คือพื้นที่ทางสังคมที่กว้างขวาง เปิดเชื่อมต่อมายังโซนนั่งเล่นกลางแจ้งและสระว่ายน้ำสำหรับต้อนรับญาติและเพื่อนฝูงได้คราวละหลายๆ คนชานกลางแจ้งที่ต่อเนื่องมาจากผนังแผ่นหินทำให้โครงการที่สวยงามนี้มากขึ้น
ช่องว่างและผนังกระจกทำให้เห็นดวงอาทิตย์ที่เดินทางล้อมรอบบ้านในระหว่างวัน แสงอาทิตย์สะท้อนในสระว่ายน้ำและทะเลสาบที่อยู่ถัดลงไปในตอนกลางวัน ให้ความรู้สึกพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ และมีมุมที่นั่งชื่นชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินอันน่าประทับใจ
การออกแบบภายในโดยดีไซเนอร์ ฮัวเรซ ครูซ เป็นไปตามแนวคิดล้อไปกับภาพลักษณ์ภายนอก เราจะเห็นพื้นกระเบื้องพอร์ซเลนสีเทาที่หมายถึงคอนกรีตเปลือย งานไม้สีสวยตามธรรมชาติ ตกแต่งเรียบหรูไม่ดูเชย ผนังแต่งเติมแผ่นหินธรรมชาติก็ยังมีในส่วนเตาผิงในสไตล์ธรรมชาติ (Natural Style) และเฟอร์นิเจอร์ในพื้นสีเทา องค์ประกอบทั้งหมดทำให้ภายในมีความหลากหลายทั้งความรู้สึกอบอุ่น เรียบเย็น เป็นธรรมชาติ คลาสสิค และโมเดิร์น
ชั้นแรกมีห้องนั่งเล่นที่มีเพดานสูงสองเท่า รวมกับพื้นที่ส่วนกูร์เมต์ ห้องสวีทสำหรับแขก และพื้นที่บริการอื่นๆ ของบ้าน สามารถมองเห็นวิวของทะเลสาบได้จากหลายด้าน เฉลียงบ้านออกแบบให้พื้นอยู่ในระดับเดียวกับบ้าน มีบานประตูกระจกที่เก็บเข้าด้านข้างได้หมด
จึงสามารถเข้าออกได้สะดวกสบายแบบไม่มีอุปสรรค บนชั้นสองมีห้องสวีทสี่ห้อง โดยสองห้องอยู่ทางทิศใต้พร้อมวิวทะเลสาบ และอีกสองห้องอยู่ทางทิศเหนือพร้อมวิวภูเขาบนชายฝั่ง สุดท้ายนี้ยังมีเฉลียงส่วนตัวสำหรับอ่านหนังสือและพักผ่อนท่ามกลางลมทะเล เป็นบ้านโมเดิร์นทรอปิคอลที่ชวนให้ใช้ชีวิตชิลๆ จนลืมวันลืมเวลา
แบบที่ 3 บ้านโมเดิร์นทรอปิคอล แปลกตา ดีไซน์สวย
บ้านหลังนี้สร้างในวายานาด รัฐ Kerala เป็นบริเวณมีสภาพภูมิประเทศเป็นเนินเขาและมีฝนตกปานกลางถึงหนักเกือบตลอดทั้งปี จึงต้องใช้การออกแบบและวัสดุหลายอย่างเพื่อปกป้องอาคารจากฝนและแสงแดดในฤดูร้อนที่รุนแรง อาทิ ระเบียงรอบด้านที่ชั้นล่าง ระเบียงที่ชั้นหนึ่ง และส่วนที่ยื่นออกมามากมายบนหลังคา
ซึ่งล้วนมีประโยชน์ในเรื่องนี้ทั้งหมด รูปแบบบ้านใช้หลังคาหน้าจั่วเชิงเส้นสองหลังคาเป็นพื้นฐาน แล้วเว้นวรรคบ้านด้วยสกายไลท์ในตำแหน่งที่ต้องการเน้นแสง เปลี่ยนการทำงานของพื้นที่บางส่วนและเปิดบ้านให้มองเห็นได้มากขึ้น สถาปนิกตั้งใจเลือกสีเอิร์ธโทนสำหรับเปลือกของอาคาร วัสดุหิน Jaiselmer สีเหลือง ไม้ซุง หินโกตา ซีเมนต์ขัดเงา และศิลาแลงในท้องถิ่นช่วยเสริมความกลมกลืนระหว่างบ้านกับสภาพแวดล้อมที่เขียวขจีได้ดี บ้าน 2 ชั้น
การออกแบบภูมิทัศน์ มีบทบาทสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องและนุ่มนวลขึ้นระหว่างบ้านกับสภาพแวดล้อมที่เป็นป่าที่มีอยู่ เราจะได้เห็นสนามหญ้า แนวต้นไม้ สวนน้ำ ที่กระจายตัวอยู่ด้านหน้า ระหว่างกลาง แลภายในบ้าน ออกแบบมาให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ซึ่งทีมงานเลือกใช้พันธุ์ไม้ที่แข็งแรงและปลูกในท้องถิ่นได้ดี เพิ่มร่มเงาความสดชื่นให้บ้าน ในขณะเดียวกันก็ออกแบบการระบายการไหลของน้ำฝนผ่านไซต์ไม่ให้สะสมความชื้นรอบ ๆ บ้าน
รอบบ้านใส่ประตูบานเลื่อนและหน้าต่างบานใหญ่ถูกจัดวางอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อให้ลมสามารถไหลผ่านทุกห้องในบ้านได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยระบายอากาศเป็นพิเศษในสภาพที่มีความชื้น แนวทางที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ
การเพิ่มลานขนาดใหญ่ที่มีหลังคาโปร่งแสงอยู่ตรงกลาง ให้แสงธรรมชาติและต้นไม้เขตร้อนเขียวชอุ่มไหลเข้ามาภายใน การเคลื่อนไหวของแสงและลมแบบนี้เปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานพื้นที่กึ่งกลางแจ้งและในบ้าน เพิ่มความสว่างและนำแสงแดดมาสู่พื้นที่มืดและชื้น พร้อมปกป้องพื้นที่ใช้สอยจากฝน
ภายในนักออกแบบพยายามที่จะเปิดทั้งมุมมองและเปิดระบายอากาศรับลม ผ่านประตูหน้าต่างขนาดใหญ่ที่เปิดได้กว้าง จึงสามารถเชื่อมต่อภายในและภายนอกได้จากห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว หรือแม้กระทั่งห้องนอน สำหรับเฟอร์นิเจอร์ภายใน อุปกรณ์เสริมและงานศิลปะ ทีมงานเลือกชุดสีที่สดใสขึ้นกว่าภาพภายนอกอาคาร
อาทิ สีฟ้า แดง และบานเย็น ที่ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบสั่งทำพร้อมกับการจัดหาชิ้นส่วนอาร์ตเดโคบางส่วน ที่ได้รับการตกแต่งใหม่ จุดที่ชวนโฟกัสสายตามีอยู่รอบ ๆ ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นพรมโบราณ ภาพวาดร่วมสมัยของอินเดีย และศิลปะพื้นบ้านที่ประดับประดาผนังซึ่งได้มาจากตลาดของเก่าใน Old Kochi
ห้องนั่งเล่นทางทิศเหนือถูกขยาย พื้นที่ให้โล่งยาวมาถึงพื้นที่รับประทานอาหารเช้า มุมรับประทานอาหารแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งกระจายอยู่หลายจุด ตอบโจทย์บ้านครอบครัวใหญ่ ให้สมาชิกในบ้านเลือกใช้งานได้ตามสะดวก ความลื่นไหลต่อเนื่องจากการวางแปลนทำให้เกิดสเปซใหญ่ ๆ ในบ้าน แม้จะมีคนอยู่อาศัยมากแต่ไม่ทำให้รู้สึกคับแคบอึดอัด ส่วนหนึ่งที่เพิ่มความโปร่ง เบา คือประตู หน้าต่าง และผนัง ที่ทำจากกระจกเปิดเชื่อมมุมมองภายในภายนอกให้มีความอิสระ
เจ้าของบ้านเป็นเจ้าของโรงพิมพ์และสำนักพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดียใต้ และยังเป็นครอบครัวของนักการเมืองรุ่นที่ 2 ด้วย ครอบครัวมีขนาดใหญ่มาก และมีข้อกำหนดพิเศษก็คือต้องมีพื้นที่รองรับเพื่อน ๆ ญาติพี่น้องที่มักจะมาเยี่ยมเยือนบ่อยๆ จึงต้องมีสเปซโล่ง ๆ ที่จุคนได้มากทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะจุดนั่งเล่นกึ่งกลางแจ้งนอกบ้านมีซุ้มระแนงเหล็กมุงหลังคาโปร่งแสง มีประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อมาจากในบ้าน สามารถนั่งเล่น พักผ่อน ปาร์ตี้ ครั้งละหลายสิบคนได้สบาย ๆ